เทคโนโลยีใหม่ในการดูดไขมันกระชับสัดส่วนมีโฆษณามากมายแถมราคาแพงด้วย มันได้ผลดีกว่าวิธีดั้งเดิมจริงหรือ??
ปัจจุบันเราจะเห็นโฆษณาตามคลินิกศัลยกรรมความงามถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดต่างๆนานาของการดูดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นVASER, LASER, SMARTLIPO ฯลฯ ว่าช่วยให้สัดส่วนกระชับเร็วขึ้น ไม่เจ็บตัว (แต่เจ็บกระเป๋าตัง :)) และได้ผลดีกว่าวิธีดั้งเดิมที่ใช้เครื่องดูดความดันลบธรรมดา คำถามคือที่โฆษณาทั้งหมดว่ามีการวิจัยพิสูจน์แล้วนั้น จริงหรือเปล่า? เชื่อถือได้ไหม?
ปกติการวิจัยทางการแพทย์จะแบ่งระดับความน่าเชื่อถือไว้5ระดับตามคุณภาพของงานวิจัย ถ้ามีการออกแบบการวิจัยที่เปรียบเทียบกันดีดีก็มักจะถือว่าเป็นระดับA ถ้าแค่แชร์ประสบการณ์การใช้ก็ถือว่าเป็นระดับDคือไม่มีความน่าเชื่อถือมากนัก เพราะมักจะมีอคติหรือผลประโยชน์แอบแฝงเชิงการค้าอยู่เสมอ
ในกรณีการเปรียบเทียบเทคนิคการดูดไขมันเทคนิคใหม่กับเทคนิคเก่านั้นก็มีแพทย์ทำการวิจัยหลายที่ด้วยกัน แต่ที่บอกว่าเทคนิคใหม่ดีกว่ามากมักจะเป้นการวิจัยที่สปอนเซอร์โดยบริษัทเครื่องมือนั่นเอง การวิจัยที่น่าเชื่อถือมักจะมาจากที่โรงเรียนแพทย์มากกว่า
จากการที่ผมมาที่University of Texasที่ได้ชื่อว่าเป็นที่ที่มีการเรียนการสอนด้านศัลยกรรมตกแต่งที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่งและเป็นที่ที่ทำวิจัยเยอะมากเกี่ยวกับเครื่องมือVASER ก็ยังเห็นส่วนใหญ่การดูดไขมันก็ยังใช้เทคนิคดั้งเดิมอยู่ เพราะปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ผลการดูดไขมันออกมาเป็นที่น่าพอใจคือตัวแพทย์ไม่ใช่เครื่องมือครับ!
นั่นหมายความว่าต่อให้ใช้เทคนิคการดูดไขมันแบบเดิมที่มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับเครื่องใหม่ๆ (ผมว่าค่าเครื่องมือต่างกันเกิน100เท่า) ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ต่างกันซึ่งก็มีคนวิจัยแล้วจริงๆ คือลองดูดไขมันต้นขาสองข้าง ข้างนึงใช้เทคนิคVASER ข้างนึงใช้เทคนิคดั้งเดิม ผลออกมาคนไข้บอกไม่ได้ว่าต่างกันยังไงและพอใจในผลลัพธ์เท่าๆกัน
สรุปคือถ้าคุณต้องเสียเงินเพิ้มขึ้นอีกมากมายเพื่อจะลองใช้เครื่องรุ่นใหม่ เทคโนโลยีใหม่ในการดูดไขมันแล้ว ผมเชื่อว่าในความเป็นจริงผลลัพธ์ออกมาไม่ต่างจากเทคนิคดั้งเดิมเท่าไร แต่ถ้าเสียเงินพอๆกัน ก็เลือกเทคโนโลยีใหม่ไป เพราะแท้จริงแล้วปัจจัยที่สำคัญคือฝีมือหมอ ไม่ใช่เครื่องมือครับ